⋆。✨˚อ่านมั้ย นวนิยาย ที่ใครก็อยากมีไว้อ่านก่อนนอนกับคนข้างๆ คืนนี้⋆˚❀ แมงมุมใต้เตียง | นิยายรสแซ่บ | ERO ROM COM | Dup-Con | โคแก่แต่จน | โคแก่แต่แซ่บ | แด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ | เด็กเก็บมารัก | มาเฟียคลั่งรักเมียเด็ก | สนุก หื่น ฮา ไร้ดราม่า ราคาไม่แพง
วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566
หวามรัก..รสแซ่บส์!! @ แมงมุมใต้เตียง
สาวน้อยรสซ่าส์..กับ..ว่าที่พี่เขยรสแซ่บส์!! @ แมงมุมใต้เตียง
"แล้วทีนี้จะใช้อะไรโทรฯ?"
"แวะโรงแรมข้างหน้านี้ดีไหม?" หล่อนเสนอ
"ไม่ดี!!" โก่งคอสวนทันควัน
"ในโรงแรมน่าจะมีโทรศัพท์นะ"
เออ..คำตอบเข้าท่า ... แต่ว่า ...
"จะบ้าหรอก!!"
แซ่บส์!!...รสรักสาวน้อยจอมยั่ว @ แมงมุมใต้เตียง
ใช่!! หล่อนตวัดสายตามามองเขาอย่างตกใจจริงๆ
เขาภาวนาให้หล่อนถอยออกไป
แต่ ... อีกใจก็ร่ำร้องว่า
ไม่ ... อย่าไป!!
รักนั้นใต้ธารแสงดาว : เจ้าสาวยิปซี @ ก็ ณ ก่อนนั้น
และเขา .. เมษ หฤหัสเดชากรณ์ .. ผู้ซึ่งไม่เคยรู้จักและรู้ซึ้งคำนี้มาก่อนทั้งชีวิต
แต่กับเด็กสาวคนนั้น … ทำไมเขาถึงห้ามหัวใจตนเองไม่ได้
คนที่เขย่าแก้ววิสกี้สีอำพันหันหน้าเงยหันมองดูดาวที่พร่างพราย …
ยิ้มเยาะให้กับเรื่องราวในนิทานที่เคยเล่าให้เธอฟัง
เฮดีส …
แม้ไม่ใช่..ก็..ใกล้เคียง
-------------------
"จะกลับกันรึยังคะ?"
พลอยพฤจิกาเป็นฝ่ายถามขึ้นมา นั่นล่ะกลุ่มสาวๆ จึงได้ทยอยลุกเดินกันไปที่ลานจอดรถ และเมษก็เลยเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นสาวน้อยชื่อพอร์ช ไม่งั้นคงได้เจอนายรามมายืนหน้าดุ ตัวเท่าตึกอยู่แถวนี้ก่อนแล้ว
"แล้วมะนาวจะกลับกันรึยังไง?"
เขาถามตอนหญิงสาวโบกมือส่งเพื่อนที่เพิ่งขับรถมินิคันสุดท้ายออกไป
"เดี๋ยวพี่ไทม์จะมารับค่ะ”
"แฟนน่ะหรือ?”
ตอนถามเสียงขรึมหัวใจเขามันหนึบแปลกๆ อีกแล้วสินะ
"กำลังดูใจกันค่ะ"
คำตอบเบา .. ค่อยกว่าที่เคย
หากคนฟังพยักหน้ารับ
"งั้นแด๊ดดี้จะกลับเลย"
"ไม่รอข้าวฟ่างหรือคะ?"
"ไม่ล่ะ ยัยม้าดีดกะโหลกนั่นเขาขับรถมาเอง และเดี๋ยวแด๊ดดี้จะแวะไปดื่มสังสรรค์กันกับเพื่อนๆ ต่ออีก"
แน่นอนว่าข้างกายเขาต้องมีสาวๆ สวยๆ อยู่ด้วยแน่ๆ เผลอจะมีบิดาของพลอยพฤจิกาด้วยนั่นแหละที่นั่งอยู่ในก๊วนนั้น
"หรือคะ แต่ .. เอิ่มมมม .. อย่าดื่มเยอะนะคะ ข้าวฟ่างเขาเคยมาบ่นบ่อยๆ ว่าเป็นห่วง กลัวเกิดอุบัติเหตุ"
"เมาก็แค่เปิดโรงแรมนอน แถวๆ นั้นแหละ"
ทำไมนำเสียงถึงคล้ายคนประชดก็ไม่รู้ และเขาเองก็รู้ว่าเด็กสาวต้องเข้าใจดีว่าเขาต้องมีสาวๆ นอนด้วยข้างๆ แน่
"ค่ะ" หากแต่เสียงคนตัวเล็กก็ยังคงดังค่อยลงไปอีก
"อื้ม"
นี่ไม่รู้ทำไม เขาถึงต้องใช้น้ำเสียงเย็นชาสั้นๆ และก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าคนตัวสูงเพียงแค่หัวไหล่เขาเองเมื่อยืนเทียบกันใกล้ๆ ก็เหมือนจะมีสีหน้าเจือๆ ลง
วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2566
จุมพิตรามสูร : Devil's Kisses @ แมงมุมใต้เตียง

จุมพิตรามสูร : Devil's Kisses
เด็กสาวที่ไร้ญาติอุปการะ 'ราม' พ่อหม้ายเรือพ่วง เพื่อนรุ่นน้องของบิดาจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะ ส่งเสียเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดี ..
แต่เพราะ 'สดายุ' บุตรชายคนเดียวของรามเองนั้นตกหลุมรักสาวน้อยคนนี้อยู่ และเพราะน้ำใจของสดายุที่มีให้ เพียงฝันจึงจำใจตกปากรับหมั้นกับบุตรชายของเขา
แต่แล้วเรื่องร้ายๆ ที่ไม่คาดฝันมันก็บังเกิดในวันหนึ่ง ขณะที่สดายุผู้ที่เพิ่งแอบกลับมาจากการไปเรียนยังต่างประเทศที่หวังจะมาดักเซอร์ไพรซ์ว่าที่คู่หมั้น .. ก็ดันได้ยินสาวน้อยในฝันสารภาพกับเพื่อนสนิทว่า เธอได้ตกหลุมรักใครสักคนอยู่แล้วก่อนหน้า .. ด้วยความเสียใจ สดายุจึงขับรถออกไปเกิดอุบัติเหตุ
รามได้เข้าไปดูใจบุตรชายเป็นครั้งสุดท้าย
และคำสุดท้ายที่เอ่ยออกจากปากบุตรชายด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย มันก็ทำให้หัวใจของรามถึงกับสั่นไหว ร้อนรุ่มราวกับไฟ เลือดในกายทุกหยาดมันจับเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น
เสียงนั่นมันยังคงดังก้อง .. วนเวียนอยู่ในหูและความรู้สึกของผู้ที่สูญเสีย
"พ่อครับ .. เพียงฝันเขาไม่ได้รักผม"
***********************************
"แล้วไอ้หมอนั่นล่ะ?"
"ใครคะ?" เสียงเธอถามงงๆ
"ไอ้คนที่มันแอบซุกอยู่ในใจเธออยู่น่ะ"
เกือบจะตะคอก แต่เธอก็ยังงง
ใครล่ะ? … นี่เขาพูดถึงใครน่ะ?
ราม ..
คำรามประกาศอย่างหัวเสีย
ลืมผู้ชายคนนั้นไปจากหัวใจ?
โธ่ .. มันคงไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!!..
เพียงฝันแอบตะโกนเถียงเขาอยู่ในใจ
เจ้าของร่างเล็กบางหยุดดิ้น หันมาจ้องมองเขาด้วยสายตาวิงวอน
บาดเจ็บอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง และนั่นมันยิ่งจะทำให้หนุ่มใหญ่แลดูอารมณ์เสียหนักมากขึ้นไปอีก
... และท้ายที่สุดก็ ...
。.:*・❀ ขอรับประกันความแซบส์..เช่นเคยค่ะ ❀.。.*・
ใคร่..ไม่รู้อิ่ม : SATYRIASIS @ แมงมุมใต้เตียง
ใคร่..ไม่รู้อิ่ม : SATYRIASIS
สภาวะ Satyriasis ... ‘ใคร่...ไม่รู้อิ่ม’
ที่มันทำร้าย ทำลายชายหนุ่มที่หล่อเหลา คมคาย เท่ สง่า สะอาดและแสนดีของเธอในอดีต ให้กลับกลายเป็นชายที่เงียบขรึม เก็บตัว หยาบคาย ป่าเถื่อน ดุร้ายคล้ายสัตว์ป่า และบ้าเซ็กส์!!
เธอควรจะหวาดกลัว
เธอควรจะหนีเขาไปในตอนที่ยังมีโอกาส
หากทว่า ... หัวใจมันร่ำร้องอยู่ข้างใน...ว่า ‘ไม่’
ยามเมื่อได้มองเห็นสายตาว้าเหว่อ้างว้างเนื่องจากบาดแผล
แล้วเช่นนี้ …
เธอยังจะทิ้งเขาไว้ให้ทุกข์ทรมานอยู่คนเดียวได้ด้วยหรือ
ไซด์ไลน์กำมะลอ : Naughty Girl @ แมงมุมใต้เตียง

ไซด์ไลน์กำมะลอ : Naughty Girl
... แต่ดั๊นจับพลัดจับผลู ...
กลายไปเป็นไซด์ไลน์ผู้ดื้อรั้นไปซะได้
*********************************
แต่..โอ๊ย!! ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ความหน้ามืดหรอกนา และเขาคงต้องเป็นมหาเศรษฐี เป็นแขก VIP ของที่นี่แน่ๆ และถ้าขืนเธอโวยวาย .. ผิดพลาดอะไรขึ้นมา ถ้าเกิดเขาไปร้องเรียน .. เรื่องนี้มันต้องกลายเป็นใหญ่ แล้วเพื่อนสาวที่ต้องมาทำงานไซด์ไลน์เพราะครอบครัวเดือดร้อนลำบากเหมือนเธอก็คงต้องมาย่ำแย่โดนหางเลข … เผลอๆ เพื่อนอาจจะโดนงดงาน เพราะแผนตามจับคู่หมั้นสุดพิลึกพิเรนทร์ ของเธองานนี้แน่ๆ … หรือเปล่า?
ผู้ชายสูงวัย สายตาคมดุๆ มีแววฉลาด เคราคางเขียวครึ้มนิดๆ ถ้าแค่ตัดจอนผมสีดอกเลาแซมบางเส้นของเขากับรอยย่นตรงหางตาทิ้งนิดเดียว ชายคนนี้ที่เธอดันเผลอเรียกเขาว่า ‘คุณลุง’ เพราะไม่กล้าเรียกเขาว่าคุณภีร์ตรงๆ เพราะเหมือนเขาจะไม่อนุญาต เธอเลยหลุดปากเรียกเขาว่าคุณลุงนี่ละ ...
แต่ ‘คุณลุง’ คนนี้เขาก็ เอิ่ม.. ดูดี สมาร์ทและแถมยังหล่อเวอร์วังเข้าขั้นดาราหรือไม่ก็นายแบบฝรั่งเท่ๆ เลยเทียวนะ
แต่พอเขากึ่งประคองกึ่งกดไหล่บังคับให้เธอเดินไปที่เตียงกว้าง แค่นี้เธอก็ถึงกับผวาทำท่าจะกระโจนเผ่น!! แต่ไม่ทันการณ์ ฝ่ามือหนาหนักกลับกดไหล่ให้เธอนอนลงแนบที่นอน หญิงสาวที่กลัวจนน้ำตาเปียกหน้าเมื่อครู่แห้งเหือดหายแต่ยังสะอื้นอักไม่หยุด
รู้สึกกลัวมากจริงๆ ก็ในชีวิตเธอเคยทำเรื่องนี้กับใครเขาซะเมื่อไร!!
“ฮือๆ .. คุณลุงขา ขอร้องเถอะค่ะ .. อย่าทำ”
ฟังดูมันก็เป็นการวิงวอนที่แปลกๆ อยู่นะ แต่มันก็ไม่ได้ไปทำให้เขาชะงักสักนิด
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำเธอเจ็บมากนักหรอก”
เขาพูดปลอบใจ พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายของเธอออก หญิงสาวพยายามขัดขืน แต่เขาก็ปลอดเสื้อเธอลงได้แล้วอย่างง่ายดาย เบญจมณีอายมากๆ .. รีบยกวงแขนขึ้นมาจะกอดอกแต่เขาก็กันมันไว้เบาๆ โน้มตัวลงหอมแก้มนุ่มหอมละมุนของเธอแทน
มือหนาๆ ทว่าอุ่นร้อนของเขาเริ่มลูบไล้ต้นแขนเรียวขาวสำรวจความยาวว่ามันจะกว้างพอจะโอบรัดกายเขาได้แน่นแค่ไหนหรือเปล่ามัง และจากนาทีนี้เขาก็เริ่มหอมแก้มเธอหนักๆ เธอก็ตื่นตระหนกซะจนลมหายใจหอบถี่ๆ ชัดเจนซะขนาดนี้ แล้วเขาก็จู่โจมประกบจูบทันที หญิงสาวที่ตกใจพยายามเบี่ยงหน้าหนี หลบหลีกปลายจมูกโด่งคมของเขาไปมา แต่เขากลับเอามือมาแตะที่แก้ม ลูบเบาๆ คราวนี้เธอดันนึกกลัวไปว่าเขาจะทำร้าย … เลยนอนตัวแข็งทื่อ
ก็จะไม่ให้เธอกลัวได้อย่างไร!!
ก็ในเมื่อก่อนหน้าเพื่อนได้สืบข่าวมาให้ เพื่อนเธอบอกมาให้อุ่นใจจนแทบจะประสาทผวาขาดผึงมาแล้วว่า ภีม์เป็นคนที่มีรสนิยมซาดิสซ์อ่อนๆ แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นลงมือใช้อุปกรณ์อะไรที่น่ากลัว แต่ตอนนี้มันดันมี ‘ภีม์’ โผล่มาตั้งสองคนไง! และตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าคนที่ซาดิสซ์ที่ว่านี่จะใช่ภีม์คนนี้หรือเปล่านี่ ก็เลยได้แต่ตะแคงหน้าหลับตาไม่กล้ามองหน้าเขา แต่หัวใจนี่เล่ามันเต้นถี่ยิบรุนแรงราวจะกระโดดออกมานอกอก
ในที่สุดเขาก็จูบปากเธอได้ง่ายดาย .. ริมฝีปากหยักหนารุ่มร้อนนั้นบดเน้นจูบไซ้ไปทั่วริมฝีปากบางๆ ลิ้นร้อนๆ ดุดันของเขาพยายามจะเผยอริมฝีปากเธอออก แต่เธอไม่ยอมเปิดปากให้เขารุกรานได้ง่ายๆ ชายหนุ่มรุ่นใหญ่ก็เลยแกล้งกอดเธอหนักๆ
วงแขนเขาก็รัดราวกับพญางู!!
... และท้ายที่สุดก็ ...
。.:*・❀ รับประกันความแซบส์..เช่นเคยค่ะ ❀.。.*・
ยั่วนักจะรักซะให้แซ่บส์!! @ แมงมุมใต้เตียง

สุดสวาทไฮโซรสแซบส์!! @ แมงมุมใต้เตียง
สุดสวาทไฮโซรสแซบส์!!
คุณอาของเพื่อนรักของคุณหนูเอริล พ่อหม้ายใหญ่ ที่เขาจดทะเบียนการหย่ากับเมียมานาน เหตุผลเพราะเธอแอบลักลอบมีชู้จนเขาจับได้ ตั้งแต่นั้นมาจึงไม่ค่อยไว้ใจในความรัก จึงตัดสินใจหันไปซื้อที่ทำไร่ขายต้นไม้และเพาะเมล็ดพันธ์พืชส่งออก
เอริล หรือ อินทิรา หวง ซาน
ลูกครึ่งไทย - ฮ่องกง สาวสวยไฮโซฯ ที่เพิ่งอกหักมาหมาด ๆ จากหนุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติ และต้องตกงานเพราะวงศาคณาญาติอับอาย ที่คลิปฉาวบนเตียงของเธอกับแฟนหนุ่มหลุดไปว่อนอินเตอร์เน็ต จนพ่อที่เป็นชาวฮ่องกงต้องสั่งให้เธอพักงานบริหารไว้ก่อน เพื่อรอเวลาข่าวฉาวจะเงียบไป! เพราะเขาเองก็อายเพื่อนชาวนักธุรกิจด้วยเช่นกัน
อินทิราจึงเฮิร์ทหนัก! แฟนก็ทิ้ง! งานก็ตก! เพื่อนก็ไม่กล้าคบ! จึงเอาแต่เมามาย ฟูมฟายจนเพื่อนสนิททนไม่ได้ จึงมาเสนอให้เธอไปพักผ่อนที่ไร่ของคุณอาหม้ายวัย 38 แทนการหนีไปพักผ่อนที่ยุโรป เนื่องจากคลิปนั้นมันหลุดว่อนวนอยู่ในเน็ต แถมซ้ำยังจะลามไปถึงต่างประเทศ อินทิราจึงทั้งเซ็ง ทั้งเจ็บใจอีริคมาก เลยพาลกลัวการจะไปได้ยินเรื่องฉาว ๆ ของตัวเองจากหนุ่มฝรั่งให้ช้ำใจกันอีกครั้ง
ดังนั้นข้อเสนอของเฟื่องฟ้ามันก็น่าสนใจในตอนนี้ เพราะที่รู้ ๆ บ้านไร่ของคุณอาพยัคฆ์นั้นก็ค่อนข้างจะสงบ และห่างไกลจากสังคมไฮโซฯ ที่เธออยู่นี้ค่อนข้างมาก จึงตกลงใจและเลือกที่จะไปพักที่นั่นเพื่อใช้เป็นที่เลียแผลใจในครั้งนี้
แต่จะมีแผลใหม่กลับมาไหม? อันนี้ก็ขอฝากให้ติดตามกันด้วยนะคะ
... และท้ายที่สุดก็ ...
。.:*・❀ ขอรับประกันความแซบส์..เช่นเคยค่ะ ❀.。.*・
------------------------
️ แต่มีคำเตือนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นางจะเป็นไปในรูปแบบ Dub-Con (เต็มใจโดยไม่เต็มใจ เคลิ้มไปในแบบงงๆ) และจบลงแบบสุขนิยมตามสไตล์นิยายขายฝัน ..ดังนั้น.. ใครที่ไม่ชอบงานแนวๆ นี้ โปรดหลีกเลี่ยงนะคะ
นิยายจัดอยู่ใน Series • เ จ้ า ส า ว จ อ ม ยั่ ว •
.....
บทที่ 1
มือขาวนวลจากร่างสาวงามที่ผิวพรรณมีน้ำมีนวลจนดูราวกับมันแทบจะเปล่งประกายได้ วางกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมลงบนเตียงนุ่มในห้องนอนรับรองแขกที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะคุ้นชินกับความเรียบง่ายของบ้านไร่แห่งนี้นักเลย
'อินทิรา' หรือ เอริล ฉาง สาวน้อยในวงสังคมไฮโซไซตี้ ลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ดีกรีเป็นถึงลูกเจ้าสาวคนเดียวของนักธุรกิจนำเครื่องสำอางเข้าจากต่างประเทศเกรดพรีเมี่ยมจากทุกยี่ห้อชั้นนำต่างๆ ซึ่งตัวหล่อนเองที่พอเรียนจบมาจากต่างประเทศ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นถึงผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์
แต่วันนี้มันมีอันต้องสิ้นสุดลง นับตั้งแต่มีคลิปที่อีริค หนุ่มคนรักที่หล่อนหมายมั่นหนักหนาว่าเขาจะขอแต่งงานกับหล่อนในเร็ววันนี้ แต่ทุกอย่างก็มาพังลงเพราะไอ้ผู้ชายจอมเฮงซวย ซังกะบ๊วย!! ที่มันไม่ได้รักหล่อนจริงๆ ที่ดันทำคลิปแอบถ่ายระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเมามัน โรมรันพันตรู ต่อสู้แซ่บเวอร์กันอยู่บนเตียงหลุดออกมา จนมันกระฉ่อนไปทั่วทั้งวงการ ไม่ว่าจะวงการธุรกิจ วงสังคมไฮโซฯ หรือแม้แต่กระทั่งเครือญาติเชื้อสายผู้ดี๊ผู้ดีทางฝ่ายคุณแม่ของหล่อนก็ออกมาประนามในความผิดพลาดที่เกิดครั้งนี้ว่ามันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าขนาดไหน
ที่พอหล่อนไปปรึกษาถามหาความรับผิดชอบ ไอ้คนต้นเรื่องมันก็ปากแข็งปฏิเสธ แถมยังจะอ้างขอเลิกก็เพราะหล่อนนั่นละที่ทำให้มันอับอาย และชิงทำตัวจางหายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนไปก็ยังจะมาพูดให้เจ็บใจว่ามันคงจะหาเงินมาเลี้ยงดูหล่อนอย่างดีอย่างที่เคยหล่อนเป็นอยู่ เป็นคุณหนูไฮโซฯผู้เอาแต่ใจได้ไม่ไหวหรอก
โธ่...ไอ้หอกเอ้ย!! แล้วตอนคบกันวันแรกๆ ทำไมไม่เห็นมันจะพูดอย่างนี้เลยล่ะ!!
แรกๆ ที่เกิดเรื่องอินทิราเองก็ตกใจจนตัวชาเมื่อเห็นข่าว ทั้งเพื่อนสาวเพื่อนชายก็เข้ามาปลอบว่าช่างมันเถอะ! อย่าคิดอะไรเยอะ ...
ใครๆ เขาก็ทำกัน ...
ใช่สิ! พวกนั้นมันก็พูดได้นิ ในเมื่อข่าวนี้มันเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหล่อนนี่นา มันไม่ใช่ข่าวที่เกิดขึ้นกับ พวกเขาเองนี่หว่า!!
เมื่อหล่อนยังโอดครวญ งอแงเหวี่ยงวีน เมาหัวทิ่มไม่เลิก สงสัยยัยมะเฟือง 'เฟื่องฟ้า' เพื่อนรักสมัยเรียนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นที่ยังคบกันนาน อดทนเห็นหล่อนเหลวไหล หน้าที่การงานป่นปี้เพราะเรื่องบัดสีฉาวโฉ่มันมาก ก็ไอ้เจ้าคลิปนั่นน่ะ มันดังในเมืองไทยไม่พอ แต่มันพากันปรากฏวนว่อนอยู่ในเน็ตแค่ไม่กี่สัปดาห์ ก็ไปโชว์หราอยู่บนเว็บต่างประเทศโน้นแล้ว
และที่มันน่าเจ็บใจหลายๆ หน เพราะเมื่อคืนนี้ในผับ หล่อนยังได้ยินผู้ชายปากหมามันเมาท์กันสนุกปากอยู่ในวงเหล้าเมื่อคืนนี้ว่า แรกที่เห็นในคลิป พวกมันคิดว่าหล่อนเป็นนางเอก AV ระดับ 5 สตาร์ เพราะหน้าตาอินทิราสวย ก็แบบหมวยๆ นี่ละ อีกทั้งผิวที่ขาวผ่องผุดผาดขนาดนั้น แถมลีลายังดูแซ่บร้อนแรงซะจนอยากจะมุดจอไปร่วมวง
โอ้ย!! แล้วจะไม่ให้หล่อนคลั่งได้อย่างไรล่ะ!!
"งั้น เอางี้ดีไหมล่ะเอริล?" เสียงยัยมะเฟืองที่นั่งเท้า คางมองเพื่อนสาวที่ฟุบหน้า นัวเนียๆ อยู่กับเคาน์เตอร์บาร์ ภายในคอนโดฯหรูหราที่ผุดอยู่กลางย่านแหล่งธุรกิจ ซึ่งมันใช้เป็นที่อาศัยในระหว่างทำงานของอินทิราเอง
"ดีกะผีอะไรของแกล่ะยะยัยม้าเฟืองเน่า!! นี่แล้วแกคิดว่าอาเสือของแกเขาจะยินดี ยินยอมเต็มใจให้ฉันไปอยู่กะเค้าด้วยหรือไง ฉันทำนาไถไร่กะใครเขาไม่เป็นนะเฟ้ย แกก็รู้ดี" ท้ายประโยคมีเสียงงึมๆ งำๆ จากคนลิ้นไก่อ่อน
"บ้า! ใครเขาจะใช้ให้ไฮโซฯอย่างหล่อนไปแตะต้อง งานแบบนั้นกันล่ะยะ ประเดี๋ยวเผือกมันในไร่อ้อยของคุณอาเสือจะได้แห่แหนกันแห้งตายห่าหมดกันพอดี" เพื่อนผู้แสนดีมีอาการส่งค้อนขวับ!!
"ฉันก็แค่แนะให้แกไปกบดานซุกหัวทำตัวชิลๆ แบบคนหลบไปพักตากอากาศอะไรแบบเนี้ย ทำเป็นไหม? แล้วแกดันดีดดิ้นทำไม? ชวนให้ไปเที่ยวต่างประเทศก็งอแงไม่อยากไป อยากชวนไปทำงานด้วยกันที่ใหม่ แต่สภาพแกอย่างนี้ดูยังไงก็คงยังไม่พร้อม"
อินทราก็ฟังอยู่นะ แต่ว่ายังโงหัวตัวเองไม่ขึ้น
"แกด่าฉันช้าๆ สิ ฉันจะได้ตามงงให้ทัน" คนเมาบ่น
"เอาจริงๆ นะเอริล" เฟื่องฟ้าทำซุ่มเสียงจริงจัง
"จริงๆ ฉันก็อยากให้แกไปเป็นเมียอาเสือเขาโน้นน่ะ แหละ" และด้วยประโยคนี้มันทำเอาคนที่กำลังเมาหัวทิ่มนี่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาพรวดจนเฟื่องฟ้าตกใจ แอบคิดสงสัยว่าครั้งนี้คงจะโดนเพื่อนรักตบเอาจนคอหักตายแล้วแน่ๆ
แต่…
"อาเสือเขามาบอกกับแกว่าเขาแอบชอบฉันหรือ?"
เฟื่องฟ้าส่ายหน้าดิก อีกครั้งที่เห็นศีรษะสวยๆ ของเพื่อนรัก...เลี้อยลงไปไถลไถเถือกกับเคาน์เตอร์หินอ่อน
"เฮ้อ.. แล้วแกจะมาพูดจาเคาะกะลาให้หมาอย่างฉันมันดีใจเก้อทำไมกันล่ะฟร่ะ!"
"นี่ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าแกก็แอบชอบอาเสือเขาอยู่" ยังคงท้าวคางก้มคุยกับหัวทุยๆ ของเพื่อนเฉ๊ย
"แล้วแกมาสนับสนุนให้ฉันไปอ่อยเขาทำไมล่ะ"
"ฉันอยากได้คนที่คุยกันรู้เรื่องมากกว่าที่จะได้ยัยป้าบ้าซีรี่ส์เกาหลีอย่างยัยลัดดามาเป็นอาสะใภ้"
"เอ๊า! แกไม่อยากได้ยัยป้านั่น แต่อาเสือเค้าอยากได้เอามานอน 'ยิ้ม' ด้วยกันนิ แล้วนั่นมันก็เกี่ยวพันกับเรื่องบนเตียงของเขา ซึ่งเราไม่มีสิทธิ์หรอกนาเว้ย" ทำรู้ดี
คนรู้ดีที่พูดจบก็กระดกเหล้าเข้าคอ หายวาบไปแล้วอีกแก้ว
แถมคนกระดกแก้วก็รู้สึกเจ็บๆ หวงๆ อย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่หล่อนกับพยัคฆ์เองก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่จบมัธยมแล้วหล่อนก็ไปเรียนต่อ แต่เนื่องจากสมัยนั้น เวลาปิดเทอมฤดูร้อนในบางปีอินทิรามักจะไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัดของเฟื่องฟ้าและเคยเจอกันกับเขา ที่มักจะไปเที่ยวหาพี่ชายบ่อยๆ เช่นกัน และในตอนนั้นเอง พยัคฆ์ หรืออาเสือของพวกหล่อนก็ได้แต่งงานอยู่ก่อนแล้วกับกานดา แต่พอหล่อนไปเรียนต่อยังต่างประเทศได้ไม่นาน สาวน้อยก็ได้ข่าวจากที่เฟื่องฟ้ามาเล่าว่า เขาหย่ากันแล้วกับกานดาเพราะหล่อนหนีตามชู้ไป จากนั้นพยัคฆ์ก็เลยตัดสินใจผันตัวเองไปซื้อที่ทำไร่อยู่ต่างจังหวัด
จบมาอินทิราก็มัวแต่สนุกอยู่กับการทำงาน จนได้มาเจอกับอีริค ไอ้เจ้าตัวผู้เฮงซวยซังกระบ๊วยตัวนั้นนั่นแหละ! ที่ตอนนั้นมันดูมาดดี๊ดี แถมมีอายุไล่ๆ กันกับหล่อน ทั้งคู่จึงได้คุยกันง่ายและเข้ากันได้ไว ประจวบกับที่เจ้าหมอนั่นมันคารมดีซะด้วยแหละ อินทิราก็เลยหลงมันหัวปักหัวป่ำ จนหลงลืมอาเสือของเฟื่องฟ้าที่อยู่กันคนละสังคมซะแล้ว ไปซะสนิทเลย
"แล้วแกจะให้ฉันไปอ่อยเขา เกิดไม่สำเร็จฉันก็เสร็จ อาเสือของแกไปฟรีๆ น่ะสิ"
"งั้นแกก็ต้องพยายามทำให้มันสำเร็จสิ" ยังท้าวคางคุยกับเพื่อนอย่างกับทั้งสองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาว ๆ มาปรึกษากันเรื่องสีที่จะใช้ทาเล็บกันซะอย่างนั้น
"ก็กลัวมันไม่สำเร็จน่ะสิยะ เพราะฉันไม่เคยอ่อยใคร ซะด้วยสิ" ปากปฏิเสธ แต่เงยหน้าขึ้นมาทำตาเป็นประกาย เหมือนคนมีเกมเล่นใหม่ๆ ที่ท่าทางน่าสนุก
"ย่ะ!!" เฟื่องฟ้าจิกตาใส่
เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วล่ะว่า ครั้งต่อไปหล่อนจะเจอะเจอยัยเพื่อนขาเหวี่ยงคนนี้ได้ที่ไหน
---------
หล่อนมาถึงที่นี่ ... ผิดหวังนิดหน่อยเพราะตัวเจ้าของ บ้านไม่ยักจะอยู่รอต้อนรับ พอจอดรถแลมโบกี่นี่สีเปรี้ยวจี๊ดไว้หน้าบ้าน เด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งก็เดินมาบอกว่าอาเสือไม่อยู่ ไปประชุมที่ในเมืองซึ่งเกี่ยวกับพันธ์พืชที่เขาทำธุรกิจอยู่นี่แหละ แต่ได้สั่งคนจัดเตรียมห้องเอาไว้ให้แล้ว สั่งอีกว่าให้ทำตัวตามสบาย .. คงค่ำๆ นั่นละเขาถึงจะกลับ
แต่สามทุ่มกว่าไปแล้วเขาก็ยังไม่กลับเข้ามา อินทิราก็คุยเมาท์กระจายอยู่กับเฟื่องฟ้าจนรู้สึกง่วงเนื่องจากขับรถมาไกลมากกว่าจะมาถึงที่นี่จึงรู้สึกเพลีย อยากพักผ่อนนอนเร็วและขี้เกียจจะรอเขาแล้ว
หลับไปนานเท่าไรก็ไม่รู้ก็ต้องตื่นขึ้นกลางดึก ซึ่งคงเป็นเพราะความแปลกที่แปลกทาง ลุกขึ้นมาตั้งใจจะหาน้ำมาดื่ม เพราะที่นี่ไม่มีมินิบาร์ในห้องเหมือนที่บ้านของหล่อนจึงต้องเดินออกมาข้างนอก
จังหวะเดินผ่านห้องห้องใหญ่ที่หล่อนเดาได้ว่าห้องนี้คงเป็นห้องของเจ้าของบ้านเองนั่นแหละ ก็ดั๊น..ได้ยินเสียงประหลาดแต่คุ้นหูดังขึ้น
ที่ว่าคุ้นหูดีก็เพราะรู้ดีน่ะสิว่า คนข้างในห้องนี้กำลังมีกิจกรรมทำอะไรกันอยู่
'ดูท่าทางก็ไม่ค่อยอดไม่ค่อยอยากอะไรเลยนะนี่'
เจ้าของความคิดเดินส่ายหัวโคลงเคลง
โธ่!! เอาแล้วไงยัยมะเฟืองเน่าเอ้ย! แล้วอย่างนี้ฉันจะมีวาสนาได้มาเป็นอาสะใภ้แกไหมล่ะนี่?
ขี่ ขย่มกันซะดังปั๊บๆๆๆๆ ออกมาลั่นบ้านซะขนาดนี้
แล้วอาเสือเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไรกันหว่า ทำไมจึงไม่ได้ยินเสียงรถเขาแล่นเข้ามาเลยล่ะ?
สงสัยหล่อนคงหลับสนิทไปเลยละสิเมื่อชั่วโมงแรกนี่ถึงไม่ได้ยินว่าเขากลับเข้ามาตอนไหน เจ้าของบ้านที่อาจเห็นว่าแขกหลับ หรือไม่บางทีเขาอาจหิ้วยัยลัดดามานอน 'ยิ้ม' ด้วยกันคืนนี้ ก็เลยไม่ได้คิดสนใจแขกที่มาอาศัยร่วมชายคาชั่วคราวอย่างหล่อนคนนี้สักเท่าไร
เดินกลับมาจะเข้าห้องก็ อ้าว!! ไม่ใช่ยัยลัดดาแฮะ!
แต่เป็นแม่เด็กสาวคนเมื่อบ่ายที่ออกมารับใช้หล่อนอยู่เมื่อช่วงกลางวันนี้นั่นเอง
เฮ๊อะ!! เจ้าชู้ร้ายไม่เบาเลยนี่นา...อาเสือนี่!!
เด็กนั่นไม่ทันได้เห็นหล่อน คงจะลืมดูต้นทางเพราะคงเคยชินกับการที่ไม่มีใครมาเป็นแขกพักที่นี่บ่อยๆ กระมัง
พอเดินถึงห้องก็ปิดประตูเซ็งๆ เห็นทีว่าจะต้องกลับกรุงเทพฯ เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้แล้วซะละมัง?
เดินไปค้นก้นกระเป๋ากุ๊กกิ๊ก ๆ คว้าเอาเจ้าเพื่อนยากออกมา
ก็ไม่ใช่อะไร ตอนที่หล่อนเดินผ่านไปได้ยินเสียงที่หน้าห้องเขา แทนที่จะผ่านเลยไปไวๆ แต่หล่อนดันเลือกที่จะหยุดฟังซะงั้นสิ!
เสียงกระซิบกระซาบแกมหัวเราะคิกคักคิกคักๆ กับเสียงคราง 'อืออ้าๆ โห๊ะๆๆ อู้ยซี้ดดดด ซู้ดดดด อย่าแรง ค่ะคุณเสือขาอย่าแร้งงงงงง' ที่ดังมาไม่ขาดปาก มันทำให้อารมณ์ที่อดอยากมาตั้งแต่เลิกรากันกับอีริคก็เริ่มชักๆ จะกระเจิง เพราะที่ผ่านๆ มาหล่อนก็ไม่เคยมีกิจกรรมแบบนั้นกับใครอีกหรอก นอกเสียจากจะช่วยเหลือตัวเองบ้างเป็นบางครั้งโดยการพึ่งพาเจ้าวัสดุอันน่ามหัศจรรย์ สีส้มใสแปร๋นๆ ที่นิ่งอยู่ในมือหล่อนขณะนี้นี่แหละ
ที่ต้องพึ่งพาเจ้านี่เพราะอินทิราชอบการมีเซ็กซ์ก็จริง แต่หล่อนไม่ใช่คนมั่ว ไม่นิยมไปส่ำส่อนกับใครที่ไหน และก็ไม่นิยมเลี้ยงเด็กไว้ใช้งานด้วย อีกทั้งก็ยังไม่ชอบไปเสนอหน้าตามบาร์โฮสต์ หรือจะไปวันไนท์แสตนด์แบบที่เพื่อนๆ ในวงไฮฯหลายคนนิยมทำกันสักเท่าไรน่ะสิ!!
และนั่นมันก็จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลว่า ทำไมหล่อนจึงได้เฮิร์ทหนักขนาดนั้น เมื่อได้ยินคำวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับไอ้เรื่องบนเตียงของหล่อนจากคนชมรมปากหมา ที่บังเอิญเดินผ่านแล้วได้ยินเข้าหู
ก็อยากจะช่างหัวมันอยู่หรอกนะ!! แต่คนที่มันแคร์ขี้ปาก...อย่างไรมันก็ย่อมต้องแคร์แบบห้ามไม่ได้หรอก
สุดท้าย ก็เลยต้องพึ่งเจ้าส้มใสเพื่อนยากให้มาเป็นเครื่องช่วยเพื่อบรรเทาความเหงาอยู่นี่
จริงๆ ครั้งนี้มันยังไม่ครบสูตร ขาดตุ๊กตาหมีตัวยักษ์ที่ยัยมะเฟืองเพื่อนผู้รู้ใจซื้อให้อีกตัวนะ อินทราติดจะเป็นคนค่อนข้างคิคุนิดๆ หล่อนเคยขอให้อีริคแต่งคอสเพลย์เป็นเจ้าตุกตาหมีสีน้ำตาลระหว่างที่ทำกิจกรรมกันด้วย
ดังนั้นในวันนี้ เจ้าหมีตัวนั้นมันจึงทำหน้าที่คล้ายกับตุ๊กตายางของพวกผู้ชายไปในตัว วิธีที่หล่อนจะนำเอาใช้ก็แค่เอาเจ้าส้มใสไปผูกเอวหรือไปวางไว้บนตัวมัน จากนั้นแล้วก็แค่ขี่หรือขย่ม กดปุ่ม ก็ดูจะถือว่าเป็นการผจญภัยบนเตียงนอนอีกรูปแบบหนึ่งได้ไม่เลวนักหรอก แต่เพราะหล่อนมาอยู่ที่นี่ มันคงดูไม่ดีถ้าหากจะหอบเอาเจ้าหมียักษ์นั่นมาด้วยใช่ป่ะ ไม่งั้นอาเสือก็คงต้องสงสัยว่านี่หล่อนไม่สบายเป็นไข้บ้าอะไรไปหรือเปล่า
แต่ตอนนี้เจ้าของบ้านทำหล่อนทนจะไม่ไหวแล้วล่ะ
งั้น..งานนี้ หล่อนจะขอข่มขืนหมอนข้างของเขาแทนไปก่อนก็แล้วกันนะ!!
ถือเป็นการแก้คัน เอ้ย!! ไม่ใช่...แก้แค้น!!
โอเค๊!! แก้มันทั้งสองอย่างนี้เลยก็ได้!
.....
บทที่ 2
ระหว่างที่เมามันอยู่บนหมอนข้าง และจินตนาการไปว่ากำลังมีกิจกรรมกับชายผู้เป็นเจ้าของมันอยู่ จนไม่ทันได้สนใจเสียงแกรกกรากที่ดังอยู่หน้าห้อง
อินทิราไม่รู้เลยจริงๆ ว่าผู้ชายคนที่ตนกำลังจินตการ ถึงซึ่งหล่อนคิดว่าเขาคงจะเพลียหลับไปแล้วหลังจากเสร็จศึกไปแล้วกับแม่เด็กสาวนั้น จึงไม่ทันคาดคิดว่าพยัคฆ์นั้น ขณะนั้นได้ลุกเดินออกมาจะหาน้ำดื่มเช่นกัน จึงทันสังเกตเห็นหล่อนเดินผ่านหน้าห้องเขาไป ก็ให้เกิดความสงสัยว่าแม่สาวน้อยคนนี้ จะแอบเห็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเหมาะสมนี้ของเขาหรือเปล่า
อะไรบางอย่างฉุดดึงเท้าเขาให้ก้าวตามร่างเล็กบาง แต่เวลาเดิน ... สะโพกกลมกลึงใต้ชุดนอนบางใสกลับโบกไหวๆ ราวเชิญชวน
โธ่!! ไอ้บ้าพยัคฆ์เอ้ย!
นั่นน่ะเด็กรุ่นหลานเชียวนะเฟ้ย!!
มีดีกรีเป็นถึงเพื่อนรักของหลานสาว ที่ยัยมะเฟืองสู้อุตส่าห์ไว้ใจฝากเพื่อนมาให้เขาดูแล แต่แกยังจะมาทำท่าน้ำลายสอเดินตามต้อยๆ อย่างนี้ได้อย่างไรกันวะนี่!!
สมภารน่ะเขาไม่กินไก่วัดกันนะ แถมไก่วัดตัวนี้ก็ดันเป็นไก่ระดับ VIP ซะด้วยสิเฮ้ย...ไอ้เสือเว้ย!!
แต่ถึงแม้จะด่าตัวเองอย่างนั้น พยัคฆ์ก็ยังมิอาจจะห้ามเท้าตัวเอง จนได้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนสำหรับแขก
กำลังหันซ้ายหันขวา ลังเลอยู่ว่าจะเคาะห้องทักทายหล่อนดีหรือไม่ ก็ดันได้ยินเสียงข้างในเคลื่อนไหวกุกกักๆ
ยังตัดสินใจได้อยู่นะว่า เอาไว้ทักทายกันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะสมดีกว่า แต่เจ้าเสียงกุกกักนี่มันช่างดึงความสงสัยอะไรในใจเขาอยู่บ้างนิดหน่อย เลยลองบิดลูกบิดประตูดูเบาๆ
อ้าว? ยัยเด็กหุ่นเซี๊ยะนี่ช่างเลิ่นเล่อชะมัด!!
จะนอนแต่กลับไม่ยักจะล๊อคห้องแฮะ
แง้มประตูแอบมอง ซึ่งพยัคฆ์นั้นไม่ได้สนใจติดตามข่าวคราวอะไรเด็กคนนี้มาก่อนหรอก จำได้แค่ว่าสมัยวัยรุ่นๆ เอริลหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มดีและมีผิวสวย แต่ตอนนั้นหุ่นของหล่อนยังดูเก้งก้างอย่างกับนกกระยางนี่นะ
สมัยนั้นก็มองแค่ว่าเอริลเป็นเด็ก และเขาเองที่เป็นผู้ที่มีรสนิยมชอบสาวหุ่นอวบๆ เต็มไม้เต็มมือ จึงไม่คิดสนใจอะไรในตอนที่ยัยมะเฟืองเล่าว่าเอริลมีเรื่องอื้อฉาวเป็นข่าวกับแฟนหนุ่มจนถึงขั้นเลิกกัน แถมยังตกงานด้วย ยัยจุ้นจึงได้เสนอให้เพื่อนหลบมารักษาแผลใจในที่สงบๆ สักพัก อีกทั้งหลานสาวก็ยังเล่าเรื่องข่าวฉาวๆ ให้เขาฟังแบบไม่ได้ปิดบัง เพราะรู้ดีว่าพยัคฆ์ไม่ใช่ผู้ชายหัวโบราณอะไร ซึ่งเขาเองก็ค่อนข้างจะเปิดกว้างในเรื่องนี้มากซะด้วย ตราบใดที่เรื่องเหล่านั้นมันยังไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมแบบพรากลูกแย่งเมียใครเขามาหรือข่มแหงใจกัน ซึ่งเขาไม่มีวันทำหรือสนับสนุน
อีกอย่าง เรื่องการถูกทรยศหักหลังจากคนที่ตนรักและไว้ใจ มันเป็นเรื่องที่บาดเจ็บสาหัสที่เขาเข้าใจดีอย่างที่เขาก็เคยเจอมากับตัวจึงค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเอริลดี ที่เสียทั้งตัว ทั้งหัวใจและชื่อเสียง แถมยังเสียความมั่นใจพ่วงท้ายมาให้อีก ดังนั้นเขาจึงเต็มใจให้ที่จะให้แหล่งพักพิงเพื่อรักษาบาดแผลเหล่านั้นแก่หล่อน
แต่ไม่ทันได้คาดคิดสักนิดนี่สิว่า จากเด็กสาวหุ่นนกกระยาง จะกลายร่างมาเป็นสาวน้อยหุ่นเซี้ยะน่าเจี๊ยะ น่าล่อ น่าฟัด สุดแรงเหวี่ยงซะขนาดนี้!!
นี่แค่มองเห็นแต่ข้างหลังยังไม่ทันได้เห็นหน้าชัดๆ เลยนะนี่
แต่ว่า 'ไอ้เรื่องพรรณอย่างว่า' เวลาอยากขึ้นมา เรื่องหน้าตาเขาไม่เคยเกี่ยงเลยนี่นะ แต่ถ้าได้สวยๆ มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีต่อใจมิใช่น้อย...
ยัยมะเฟืองก็เคยส่งรูปมาให้ดูนี่หว่า แต่ทว่าตอนนั้นเขาไม่ค่อยจะสนใจอะไรเท่าไร ก็เลยไม่ได้เปิดไฟล์ดู
แล้วไอ้ที่ตอนแรกสงสัยว่าเสียงกุกกักนั่นมันคืออะไร
ไม่ใช่หรอก
เขากลัวว่าเผื่อเด็กคนนั้นอาจนึกจะคิดสั้น หรือเผื่อหล่อนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่สบายจะได้เข้าไปช่วยเหลือทัน ที่ต้องมาลอบแอบมองก่อนเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว มันคงไม่เหมาะหากเขาจะบุกเข้าไปคุยกับเด็กสาว ที่ก็พูดไม่ได้เต็มปากว่ารู้จักสนิทสนมกันดีอยู่ก่อน
ยิ่งในยามดึกยามวิกาล ขืนทะเล่อทะล่าเดินเข้าไป
ดีไม่ดี .... เดี๋ยวไก่จะตื่น ....
เฮ้ย! ไม่ใช่เฟ้ย! .... เดี๋ยวเด็กจะตื่นตกใจ!!
และถึงแม้พยัคฆ์จะขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง แต่เขาก็เป็นคนที่มีมารยาทในการกินอยู่นะ
ไม่ได้โหดได้หื่น ตะกุมตะกลามไร้พิธีรีตองนักหรอก
แอบมองเด็กสาวที่เดินไปค้นกระเป๋าหยิบเอาเจ้าแท่งสีส้มใสแปร๋นออกมาแล้วหนุ่มใหญ่ก็ยืนทำตาปริบๆ
เฮ้ย!! คุ้นๆ วะ! ไอ้แท่งนั้นน่ะ!!
มีแสงวิบวับๆ เกิดขึ้นในแววตาที่เริ่มจะมีร่องรอยย่นตรงบริเวณหางตาคมเข้มของเขาอยู่นิดๆ
เกือบจะเผลอร้องว้าวออกมาแล้ว ยังดีที่รีบหุบปากตัวเองเอาไว้ได้ทัน
งั้นอย่างนี้ที่เขาแอบสงสัยว่ายัยน่าเจี๊ยะ นี่คงบังเอิญเดินออกมาทันได้ยินเขากับเด็กราตรีที่กำลัง โรมรันเมามันกันอยู่เมื่อครู่นี้แน่ๆ ก็แปลว่าหล่อนคงยืนฟัง เพราะราตรีเป็นเด็กที่ชอบส่งเสียงดังซะด้วยสิ
เอริลก็คงเกิดอารมณ์ขึ้นมาบ้าง ก็เห็นว่าเพิ่งเลิกกับแฟนฝรั่งมาได้เดือนหนึ่งแล้วนี่ หล่อนเองก็ยังอยู่ในช่วงวัยเจริญเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ยังคงจะมีความต้องการสูงมาก
ยิ่งคนเคยๆ ลิ้มลองรสชาติมาแล้วแบบนั้น มันก็ย่อมจะคงติดใจในเพศรสอยู่เป็นธรรมดาด้วยละกระมัง
พยัคฆ์แอบมองอินทราช่วยเหลือตัวเองไป น้องชายของเขาเองก็ชักแข็งโด่ ทั้งที่เพิ่งจะกินอิ่มไปเมื่อครู่นี่แท้ๆ
ก็....โอ้โห.....แม่คุณเอ๋ย!! (ปาดน้ำลาย)
หล่อนเริ่มจากถอดชุดนอนซีทรูสั้นจู๋ ผ่านทางหัวทุยสวย ๆ
ผมยาวหนาสยายสะบัดไหวจนดูน่าขยุ้ม กระชากให้หน้าหงายแล้วก็ ...
โธ่! ไอ้เสือ!! ประเดี๋ยวแกก็ได้ทิ้งหลักฐานนักถ้ำมองกองกระฉูดอยู่ตรงนี้หรอก!!
แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ ที่จินตนาการเห็นปากจิ้มลิ้มอ้างับเจ้าหนูของเขาได้ไม่หมดจนต้องใช้วิธีเลียๆ ดูดๆ เอา
ซู้ดดดดด อ้าาาาาห์!!
โอ้ย!! ไม่ไหวล้าววววว!!
ขืนมามัวแต่ยืนส่องหล่อนที่ ขี่ ขย่ม ข่มขืนหมอนข้างของเขาอยู่ตรงนี้อีกเพียงแค่นาทีเดียว มีหวัง เขาคงต้องได้ขายขี้หน้ายัยเด็กนี้แน่!!
งั้นก็ .....